IRIS TEAM BLOGS

วิธีเลือกหุ้นเชิงกลยุทธ์ อย่างง่าย

28 กรกฎาคม 57
เทคนิคการเลือกกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าลงทุน
  • Leader : จะแนะนำกลุ่มที่แนวโน้มกำไรเติบโตต่อเนื่อง และมี Catalyst บวก กระตุ้นราคา
  • Laggard :จะแนะนำกลุ่มที่ฐานกำไรพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว และมีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงถัดไป
  • กลุ่มที่แนะนำหลีกเลี่ยง : กลุ่มที่ฐานกำไรยังประเมินจุดต่ำสุดไม่ได้ มีความเสี่ยงต่อการลด
    ประมาณการณ์ต่อเนื่อง หรือ ปัจจัยลบที่ไม่ชัดเจนกดดัน


กลยุทธ์การประเมินมูลค่าหุ้นอย่างง่าย ๆ ที่นักลงทุนสามารถนำไปฝึกวางเป้าหมายการลงทุนได้

Valuation ด้วย PER Multiple :
  1. คาดการณ์แนวโน้มยอดขายตามเป้าของผู้บริหาร หรือ Growth โดยเฉลี่ย แบ่งเป็น 2กรณี คือ กรณีแย่สุด และกรณีดีสุด
  2. คำนวณ NET Profit Margin จากค่าเฉลี่ยในอดีตของ บริษัท หรือแนวโน้มจากช่วงไตรมาสล่าสุด
    เพื่อประเมิน Net Profit ต่อปี
  3. คำนวณ EPS จาก Net Profit/No Shares
  4. ประเมินราคาเป้าหมายต่อปีจาก PER Average ของตัวบริษัทในช่วง 10ปี หรือ ใช้ค่าเฉลี่ยรายอุตสาหกรรมตามความเหมาะสม
  5. เปรียบเทียบราคาเป้าหมายในกรณี ฐาน กรณีแย่สุด และกรณีดีสุด ในแต่ล่ะปีเทียบกับราคาตลาด
    มี Upside หรือผลตอบแทนต่อปีจูงใจหรือไม่ เพื่อตัดสินใจลงทุน ตามกรอบเวลาการลงทุน 1 ปี 2ปี 3ปี ... 5ปี

Note : ควรให้น้ำหนักการตัดสินใจลงทุนจากกรณีฐาน หรือ Downside จากกรณีแย่สุดเสมอ เพื่อประเมินผลตอบแทนเทียบความเสี่ยง

การแปลความหมายของเศรษฐกิจในสภาวะต่าง ๆ และหลักการพิจารณาผลกระทบต่อหุ้น
  • ดัชนีตลาดหุ้นเป็น Leading Indicator ที่ดี และราคาหุ้นมักตอบรับล่วงหน้าแนวโน้มเศรษฐกิจราว
    1-2 เดือนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจขาขึ้นหรือขาลง ดังนั้นการลงทุนในตลาดหุ้นให้ประเมิน Cycle ของเศรษฐกิจ โดยจุดในการซื้อที่ดีที่สุดคือช่วงที่เศรษฐกิจ Bottom (หมายถึงแนวโน้มแย่สุดๆ แล้ว ไม่ใช่รอ GDP รายงานตัวเลขที่แย่ที่สุดออกมา) ในทางตรงข้าม จังหวะที่ควรถอยห่างจากตลาดหุ้น คือ ช่วงที่ประเมินเศรษฐกิจจะออกมาดีที่สุดแล้ว และมองไม่เห็น Growth Momentum ที่ดีกว่านี้ได้ ควรทยอยขายหุ้นออกมาเพื่อลดความเสี่ยง และกรณีที่มีการรายงาน GDP ออกมาดีสุดๆ คือจังหวะที่ควรขายหุ้นออกมามากที่สุด
  • การเลือกอุตสาหกรรมตามภาวะเศรษฐกิจค่อนข้างสำคัญ หากประเมินเศรษฐกิจกำลังจะฟื้นตัวไปจนถึงขยายตัวต่อเนื่อง ให้พยายามประเมินว่าเศรษฐกิจในช่วงนั้นๆ กำลังจะเติบโตจากส่วนใด(การบริโภค การลงทุน การใช้จ่ายภาครัฐ หรือการส่งออก) โดยมีปัจจัยใดหนุน เพื่อเลือกลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจในแต่ช่วงเต็มที่

Note : ในส่วนของกลุ่ม Commodities ให้ประเมินจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยเน้นพิจารณาจาก Demand-Supply ของผู้บริโภคหรือผู้ผลิตโภคภัณฑ์ชนิดนั้นเป็นหลัก และติดตามราคาโภคภัณฑ์รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุน