ข่าวประกาศ


ประกาศทั่วไป

17 ธันวาคม 67 : แจ้งการปรับลดมูลค่าหลักทรัพย์ในการพิจารณากำหนดวงเงินและคำนวณอำนาจซื้อ

เรียน        ลูกค้าผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน

เรื่อง         แจ้งการปรับลดมูลค่าหลักทรัพย์ในการพิจารณากำหนดวงเงินและคำนวณอำนาจซื้อ

อ้างถึง      1. หนังสือสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย ที่ บล. 166/2567 เรื่อง นำส่งแนวทางการปฏิบัติงานสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2567

                  2. หนังสือ ก.ล.ต. นป. 3554/2567 เรื่อง การให้ความเห็นชอบแนวทางการปฏิบัติงานของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยเกี่ยวกับการพิจารณากำหนดวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้า ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2567

ตามที่ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (“สมาคม”) ได้ปรับปรุงแนวทางการปฏิบัติงาน เรื่อง การพิจารณาวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้า ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“สำนักงาน ก.ล.ต.”) ได้แก้ไขเพิ่มเติมและไห้ความเห็นชอบรวมถึงประกาศใช้เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2567 รายละเอียดตามหนังสือที่อ้างถึงนั้น

เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข ที่ปรับปรุงแก้ไขตามที่กล่าวมาข้างต้น บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) จึงใคร่ขอเรียนให้ท่านทราบว่า กรณีที่ท่านนำหลักทรัพย์มาแสดงหรือใช้เป็นหลักประกันสำหรับการซื้อขาย บริษัทต้องนำปัจจัยด้านคุณภาพของหลักทรัพย์มาพิจารณาประกอบการกำหนดวงเงินในทุกประเภทบัญชี และคำนวณอำนาจซื้อในบัญชีเงินสด โดยปรับลดมูลค่าของหลักทรัพย์ (Haircut) ที่ท่านนำมาแสดง หรือ ใช้เป็นหลักประกันสำหรับการซื้อขายหลักทัพย์ ในอัตราดังต่อไปนี้

            1. หลักทรัพย์ในกลุ่ม SET50 ไม่มีการกำหนดให้ปรับลดมูลค่าของหลักทรัพย์ (Haircut)

            2. หลักทรัพย์ ในกลุ่ม SET 51 - 100 ให้ปรับลดมูลค่าหลักทรัพย์ (Haircut) ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 และหลักทรัพย์กลุ่ม Non-SET 100 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30

            3. หลักทรัพย์ที่ออกและเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชน (IPO) และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ช่วง 60 วันแรก หรือกรณีการเข้าตลาดหลักทรัพย์ทางอ้อม (Backdoor Listing) ให้ปรับลดมูลค่าหลักทรัพย์ (Haircut) ในอัตราไม่น้อยกว่า 1.5 เท่า ของอัตราที่กำหนดตามข้อ 1. และ 2.

            4. กรณีลูกค้ารายใดมีหลักทรัพย์ (นับรวม NVDR) ที่เป็นหลักประกัน กระจุกตัวไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของจำนวนหลักทรัพย์ที่เรียกชำระแล้ว ให้ Haircut เพิ่ม 1.5 เท่า และกรณีกระจุกตัวไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของหลักทรัพย์ที่เรียกชำระแล้ว ให้ Haircut เพิ่ม 3.0 เท่า ของอัตราที่กำหนดตามข้อ 1. และ 2.

            5. กรณีหลักทรัพย์ไม่มีสภาพคล่อง หรือเพิ่งถูกปลดเครื่องหมาย SP ภายใน 30 วัน อาจไม่นำมูลค่าหลักทรัพย์นั้นมาคำนวณอำนาจซื้อและกำหนดวงเงิน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบริษัทเป็นรายกรณีไป


โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป

 

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน)