คำถามที่พบบ่อย
ข้อมูลการซื้อ/ขาย การเพิ่มวงเงิน การโอนหุ้น วิธีการคำนวณต่างๆ
ขั้นตอนการแก้ไขคำสั่งซื้อขายผ่านโปรแกรม Streaming
โปรแกรม Streaming |
1. หากท่านมีรายการซื้อ/ขาย รายการซื้อขายของท่านจะปรากฏในส่วนของ Order Status ด้านล่างหน้าจอ |
2. คลิก link Change หรือ Detail ที่รายการที่ท่านต้องการเปลี่ยนแปลง (สามารถแก้ไข ราคา, จำนวน, NVDR และ Publish Volume) |
แอพพลิเคชั่น Streaming บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
1. หากท่านมีรายการซื้อ/ขาย รายการซื้อขายของท่านจะปรากฏในส่วนขจงเมนู Portfolio เลือกแถบเมนู Order |
2. คลิกรายการที่ท่านต้องการเปลี่ยนแปลง จะปรากฏ ปุ่ม Change ด้านล่าง (สามารถแก้ไข ราคา และ จำนวน) |
หมายเหตุ :
- สามารถแก้ไขรายการได้ระหว่างเวลา 8.00 น. - Call Market ในวันที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการ
- สามารถเปลี่ยนแปลงรายการที่รอจับคู่ได้เท่านั้น รายการที่ยกเลิกไปแล้ว หรือ รายการที่จับคู่ไปหมดแล้ว ไม่สามารถแก้ไขได้ (ยกเว้น การแก้ไข หุ้น NVDR)
- หากมีการแก้ไขโดยลดแต่ปริมาณหุ้นลง และราคาไม่เปลี่ยนแปลง ท่านจะไม่เสียคิวในการรอจับคู่ซื้อขาย
วิธีการคำนวณต้นทุนหุ้น
“การซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ตนั้นในตอนตั้งต้นระบบในตอนเช้าจะนำค่าต้นทุนที่ได้จากการคำนวณด้วยวิธี FIFO
แสดงในค่า Average Cost และในระหว่างวันจะหากมีการซื้อขายจะใช้วิธีการคำนวณต้นทุนและกำไรขาดทุน
โดยใช้วิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (Weighted Average Cost) และแสดงในค่า Average Price”
ตัวอย่างการคำนวณต้นทุนหุ้น โดยใช้วิธี FIFO และ วิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก โดยไม่รวม commission และ vat มีดังนี้
วันที่ 1 | ซื้อหุ้น ABCD จำนวน 200 หุ้น ที่ราคา 10 บาท= 2,000 |
ซื้อหุ้น ABCD จำนวน 300 หุ้น ที่ราคา 20 บาท= 6,000 | |
ขายหุ้น ABCD จำนวน 100 หุ้น ที่ราคา 10 บาท |
วิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก :วิธีถัวเฉลี่ยต้นทุนของการได้มาถ่วงน้ำหนักด้วยจำนวนหน่วยที่ได้มาในแต่ละครั้ง
Order | ต้นทุนในพอร์ต | วิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก | |||
---|---|---|---|---|---|
ต้นทุนขาย | มูลค่าคงเหลือ | ต้นทุนใหม่ในพอร์ต | กำไร/ขาดทุน | ||
ซื้อ 200 @10 บาท | (2,000)/200=10 | ||||
ซื้อ 300 @20 บาท | (2,000+6,000)/500=16 | ||||
ขาย 100 @10 บาท | 16*100=1,600 | 8,000-1,600 =6,400 | 6,400/400=16 | (10-16) *100=-600 |
วิธี FIFO : หุ้นที่ซื้อเข้ามาก่อนจะถูกขายออกไปก่อน
Order | ต้นทุนในพอร์ต | วิธี FIFO (แสดงต้นทุนในพอร์ตต้นวันเท่านั้น) | |||
---|---|---|---|---|---|
ต้นทุนขาย | มูลค่าคงเหลือ | ต้นทุนใหม่ในพอร์ต | กำไร/ขาดทุน | ||
ซื้อ 200 @10 บาท |
(2,000)/200=10 | ||||
ซื้อ 300 @20 บาท |
(2,000+6,000)/500=16 | ||||
ขาย 100 @10 บาท |
10*100 =1,000 |
(100*10+(300*20) =7,000 |
7,000/400=17.5 |
สรุป จะเห็นว่าการคำนวณวิธี FIFO ใน order ที่ 3 นั้น ราคาทุนหุ้นที่ขายไปจะใช้ราคาของ Order แรกที่ซื้อเข้ามาคือ
ที่ราคา 10 บาท ไม่ใช่ 16 บาทซึ่งเป็นต้นทุนก่อนขาย
วิธีคำนวณคอมมิชชั่นและภาษีมูลค่าเพิ่ม
Case 1: ซื้อหุ้น ABCD 2,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 30 บาท ส่งคำสั่งซื้อขายด้วยตนเองผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ค่าคอมมิชชั่น 0.15% |
มูลค่าซื้อขาย 30*2,000 = 60,000 บาท |
ค่าคอมมิชชั่น 60,000 X 0.15% = 90 บาท |
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) 90 X 7 % = 6.30 บาท |
ค่าคอมมิชชั่นรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม คือ 90 + 6.30 = 96.30 บาท |
ดังนั้นมูลค่าซื้อขายรวมคอมมิชชั่นและภาษีมูลค่าเพิ่ม 60,000+96.30 = 60,096.30 |
Case 2: ซื้อหุ้น ABCD 1,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 30 บาท ส่งคำสั่งซื้อขายด้วยตนเองผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ค่าคอมมิชชั่น 0.15% |
มูลค่าซื้อขาย 30*1,000 = 30,000 บาท |
ค่าคอมมิชชั่น 30,000 X 0.15% = 45 บาท |
***เนื่องจากค่าคอมมิชชั่นไม่ถึง 50 บาท บริษัทฯ จะคิดค่าคอมมิชชั่นขั้นต่ำเท่ากับ 50 บาท*** |
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) |
ค่าคอมมิชชั่นรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม คือ |
ดังนั้นมูลค่าซื้อขายรวมคอมมิชชั่นและภาษีมูลค่าเพิ่ม 30,000+53.50 = 30,053.50 |
*** หากในวันที่ท่านมีการซื้อขายและมีค่าคอมมิชชั่นไม่ถึง 50 บาท บริษัทฯจะเก็บค่าคอมมิชชั่นเท่ากับ 50 บาท หากมากกว่า 50 บาท บริษัทจะคิดค่าคอมมิชชั่นตามปกติ |
|
Case 3: ซื้อหุ้น ABCD 1,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 30 บาท ส่งคำสั่งซื้อผ่านเจ้าหน้าที่ที่ปรึกษาการลงทุน ค่าคอมมิชชั่น 0.25% |
มูลค่าซื้อขาย = 30*1,000 = 30,000 บาท |
ค่าคอมมิชชั่น 30,000 X 0.25% = 75 บาท |
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) 75 X 7 % = 5.25 บาท |
ค่าคอมมิชชั่นรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม คือ 75 + 5.25 = 80.25 บาท |
ดังนั้นมูลค่าซื้อขายรวมคอมมิชชั่นและภาษีมูลค่าเพิ่ม 30,000+80.25 = 30,080.25 |
|
หมายเหตุ: อัตราดังกล่าวข้างต้นไม่รวมค่าธรรมเนียมตลาดหลักทรัพย์ (Trading Fee: 0.005%), ค่าธรรมเนียมการชําระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ (Clearing Fee: 0.001%) และค่าธรรมเนียมการกํากับดูแล (Regulatory Fee: 0.0010%) |
ทำไมบัญชี Cash Account ต้องวางเงินหลักประกัน 20%
ตลาดหลักทรัพย์ กำหนดให้เพิ่มอัตราการวางหลักประกันเป็น 20% ของวงเงินที่จะซื้อหลักทรัพย์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงของระบบชำระราคาและอุตสาหกรรมโดยรวม และสร้างความมั่นคงให้ระบบการซื้อขายมากขึ้น
เช่น วงเงิน 100,000 บาท จะต้องฝากเงินเป็นหลักประกัน 20,000 บาท
การส่งคำสั่งซื้อขายของวันรุ่งขึ้น ( Overnight Order) สามารถตั้งได้หรือไม่ ?
ลูกค้าที่มีบัญชีซื้อขายทางอินเทอร์เน็ตสามารถส่งคำสั่งซื้อขายล่วงหน้าได้ตั้งแต่ 16.45 น. เป็นต้นไป
คำสั่งซื้อขายประเภทที่มีอายุข้ามวัน (GTC, GTD)
Good till Cancel (GTC): คำสั่งจะอยู่ในระบบซื้อขาย จนกว่าจะถูกยกเลิก
Good till Date (GTD): คำสั่งจะอยู่ในระบบซื้อขาย จนถึงวันที่กำหนด หรือจนกว่าจะถูกยกเลิก
โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติม ดังนี้
1. คำสั่งจะถูกจัดเก็บในระบบสูงสุดไม่เกิน 30 วันปฏิทิน (วันที่ส่งคำสั่งนับเป็นวันที่ 1)
2. ระบบจะยกเลิกคำสั่ง Overnight Order ในกรณีดังนี้
- ราคาที่ระบุในคำสั่ง อยู่นอกกรอบราคา Ceiling & Floor ประจำวัน
- วันแรกที่หลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมายแสดงว่าราคาซื้อขายหลักทรัพย์เป็นราคาที่ไม่รวมสิทธิประโยชน์* เช่น การจ่ายเงินปันผล (XD) การให้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (XR) การให้สิทธิในการได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิ (XW) และ การจ่ายเงินคืนทุน (XN) เป็นต้น (โดยจะพบเครื่องหมาย L ต่อจากเครื่องหมายสิทธิประโยชน์บน Streaming เช่น (XD,L) เป็นต้น )
- เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลหลักทรัพย์ ตามที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนดเช่น การเปลี่ยนพาร์ (Split Par) การเปลี่ยนชื่อย่อหลักทรัพย์ และการเปลี่ยนแปลงหน่วยการซื้อขาย (board lot) เป็นต้น
3. ไม่อนุญาตให้ส่งคำสั่ง Overnight Order สำหรับการซื้อขายหน่วยย่อย (Odd Lot)
4. กรณีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดมาตรการให้ซื้อหลักทรัพย์ด้วยการวางเงินสดล่วงหน้าเต็มจำนวนก่อนซื้อ (หรือซื้อด้วยบัญชี Cash Balance) อันเนื่องจากมาตรการกำกับการซื้อขาย หรือเนื่องจากการขึ้นเครื่องหมาย C (Caution) เป็นต้น บริษัทสมาชิกต้องกำกับดูแลและดำเนินการให้คำสั่ง Overnight Order ที่ยังไม่ถูกจับคู่ เป็นไปตามมาตรการดังกล่าวเช่นกัน
สัญลักษณ์สิทธิประโยชน์ (เครื่องหมาย X ต่างๆ)
(XB) Excluding Other Benefit : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ ไม่ได้สิทธิในบางกรณี
(XD) Excluding Dividend : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ ไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล
(XE) Excluding Exercise : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ ไม่ได้สิทธิในการนำตราสารสิทธิไปแปลงสภาพเป็นหุ้นอ้างอิง
(XM) Excluding Meetings : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ ไม่มีสิทธิเข้าประชุมผู้ถือหุ้น
(XN) Excluding Capital Return : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ ไม่มีสิทธิในการรับเงินคืนจากการลดทุน
(XR) Excluding Right : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ ไม่ได้สิทธิจองซื้อหุ้นออกใหม่
(XT) Excluding Transferable Subscription Right : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ ไม่ได้สิทธิรับใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้
(XW) Excluding Warrant : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ ไม่ได้สิทธิรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหลักทรัพย์
(X) Delisted Stock : หุ้นที่จะถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ โดยจะแสดงสัญลักษณ์ X ให้เห็นในวันทำการซื้อขายวันสุดท้ายของหุ้นตัวนั้นๆ
เมื่อส่งคำสั่งซื้อขายเข้าระบบและสถานะของคำสั่งแสดงผลเป็น Rejected คำสั่งซื้อขายนั้นถูกส่งเข้าระบบหรือไม่ ?
คำสั่งของท่านไม่ถูกส่งเข้าระบบ และ Rejected Code นั้นๆท่านสามารถตรวจสอบได้ที่ หน้าจอ Streaming Pro ในเมนู setting ที่หัวข้อ Reject Code